Be loving to those who love you.
จง... รักคนที่รักคุณ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be loving to those who do not love you, and they may change.
จง... รักคนที่ไม่รักคุณแล้วสักวันหนึ่ง ............เค้าอาจจะเปลี่ยนใจ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be strong enough to face the word each day.
จง... เข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be weak enough to know you cannot do everything alone.
จง... อ่อนแอพอที่จะรับรู้ว่าลำพังเรานั้นทำอะไรไม่ได้ทุกอย่าง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be generous to those who need your help.
จง... ฟุ่มเฟือยน้ำใจ เมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be frugal with what you need yourself.
จง... ประหยัดสิ่งที่จำเป็นไว้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ฺBe wise enough to know that you do not know everything.
จง... จงฉลาดพอที่จะรู้ว่าเราไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be foolish enough to believe in miracles.
จง... โง่พอที่จะเชื่อในปาฎิหาริย์
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be willing to share your joys.
จง... เต็มใจจะแบ่งปันความสุขของตัวเอง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ฺBe willing to share the sorrows of others.
จง... เต็มใจที่จะแบ่งรับความทุกข์ของผู้อื่น
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be a leader when you see a path of others have missed.
จง... เป็นผู้นำหากทางที่ผู้อื่นทิ้งไว้ให้นั้นเลือนลาง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be a follower when you are shrouded in the midst of uncertainly.
จง... เป็นผู้ตามหากตกอยู่ในวงล้อมแห่งความไม่แน่นอน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be the first to congratulate an opponent who succeeds.
จง... เป็นคนแรกที่แสดงความยินดีต่อความสำเร็จของคู่แข่ง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be the last to criticize a colleaque who fails.
จง... เป็นคนสุดท้ายที่จะวิจารณ์ความผิดพลาดของเพื่อน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be sure where you next step will fall, so that you will not stumble.
จง... มองเพียงแค่ก้าวถัดไปเพราะมันจะทำให้เราไม่ล้ม
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Be sure of your final destination, in case you are going to the wrong
way.
จง... มองไปยังจุดหมายปลายทางให้แน่ใจ ว่าไม่ได้กำลังเดินผิดทาง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
กลอนความรัก
เจ็บไม่เจ็บ ก็ไม่ต่าง ไปจากเดิม
ที่เพิ่มเติม คือความเหงา เข้ามาหา
ใจมันเจ็บ แต่อดทน จนชินชา
ลืมแล้วว่า เสียน้ำตา ไปเท่าไร
มีความสุข มากนักเหรอ ที่เธอทำ
หรือคิดว่า แค่ขำขำ เลยทำได้
เธอน่ะ ทำเป็นเล่น ไม่เห็นใจ
รู้ไหมว่า ฉันคิดไง ที่จริงจัง
ทนไม่ไหว ถ้ามีใคร ใกล้ชิดเธอ
เพราะอาจเผลอ มีใจ ให้กับเขา
ทนไม่ได้ ถ้ามีใคร ย่ำใจเรา
ลืมไปว่า ได้แต่เฝ้า แอบรักเธอ
เหมือนคนเดียว ในโลก ที่โศกเศร้า
เมื่อความเหงา มันรุมเร้า เข้ามาหา
มองไม่เห็น จะมีใคร ไหนจะมา
มองเห็นว่า มีน้ำตา ที่หน้าเรา
วันเวลา แสนเศร้า คงจางไป
คงไม่นาน ความสดใส จะมาถึง
ขอให้เธอ หยุดคิด สักนิดนึง
หากไม่เจ็บ คงไม่ถึง ความสุขใจ
อย่าหยุดยั้ง แม้ความหวัง ยังไม่เห็น
อาจท้อบ้าง ช่างยากเข็น เป็นปัญหา
ก็จงฝืน ยืนขึ้นสู้ รู้ชะตา
หากผ่านพ้น ทางข้างหน้า จะมีชัย
ตอนกลางวัน มองตะวัน แล้วร้อนเร่า
ตอนกลางคืน มองจันท์เจ้า เศร้าไปใหญ่
แม้สว่าง หรือมืดค่ำ ก็ช้ำใจ
ไม่เห็นเหมือน เวลาใด ที่ใกล้เธอ
บอกหัวใจ ว่ายังรัก ยังภักดี
แต่ความจริง ที่มี มันไม่ใช่
ฉันว่า yes เธอว่า no โถ..หัวใจ
ไม่ยอมรับ ความเป็นไป ที่เป็นจริง
เหนื่อยจริงๆ ที่ต้องวิ่ง ตามหัวใจ
มันวิ่งหนี ไปหาใคร ก็ไม่รู้
คงต้องหา ใครสักคน มาช่วยดู
หากเธอว่าง พอจะอยู่ ดูแลใจ
บางสิ่ง ในใจ ก็ไม่รู้
มันแอบหลบ ซ่อนอยู่ ในรูไหน
กว่าจะรู้ ว่ามีเธอ ว่าเจอใจ
ก็รักเธอ เข้าให้ เต็มใจเรา
ปากก็บอก ว่าลืม ลืมเธอหมด
ใครก็มอง ว่าเราอด ทนอยู่ได้
ที่ต้องกัด ฟันฝืน ยืนต่อไป
ก็เพราะรัก คำนี้ไง รักตัวเอง
ที่เพิ่มเติม คือความเหงา เข้ามาหา
ใจมันเจ็บ แต่อดทน จนชินชา
ลืมแล้วว่า เสียน้ำตา ไปเท่าไร
มีความสุข มากนักเหรอ ที่เธอทำ
หรือคิดว่า แค่ขำขำ เลยทำได้
เธอน่ะ ทำเป็นเล่น ไม่เห็นใจ
รู้ไหมว่า ฉันคิดไง ที่จริงจัง
ทนไม่ไหว ถ้ามีใคร ใกล้ชิดเธอ
เพราะอาจเผลอ มีใจ ให้กับเขา
ทนไม่ได้ ถ้ามีใคร ย่ำใจเรา
ลืมไปว่า ได้แต่เฝ้า แอบรักเธอ
เหมือนคนเดียว ในโลก ที่โศกเศร้า
เมื่อความเหงา มันรุมเร้า เข้ามาหา
มองไม่เห็น จะมีใคร ไหนจะมา
มองเห็นว่า มีน้ำตา ที่หน้าเรา
วันเวลา แสนเศร้า คงจางไป
คงไม่นาน ความสดใส จะมาถึง
ขอให้เธอ หยุดคิด สักนิดนึง
หากไม่เจ็บ คงไม่ถึง ความสุขใจ
อย่าหยุดยั้ง แม้ความหวัง ยังไม่เห็น
อาจท้อบ้าง ช่างยากเข็น เป็นปัญหา
ก็จงฝืน ยืนขึ้นสู้ รู้ชะตา
หากผ่านพ้น ทางข้างหน้า จะมีชัย
ตอนกลางวัน มองตะวัน แล้วร้อนเร่า
ตอนกลางคืน มองจันท์เจ้า เศร้าไปใหญ่
แม้สว่าง หรือมืดค่ำ ก็ช้ำใจ
ไม่เห็นเหมือน เวลาใด ที่ใกล้เธอ
บอกหัวใจ ว่ายังรัก ยังภักดี
แต่ความจริง ที่มี มันไม่ใช่
ฉันว่า yes เธอว่า no โถ..หัวใจ
ไม่ยอมรับ ความเป็นไป ที่เป็นจริง
เหนื่อยจริงๆ ที่ต้องวิ่ง ตามหัวใจ
มันวิ่งหนี ไปหาใคร ก็ไม่รู้
คงต้องหา ใครสักคน มาช่วยดู
หากเธอว่าง พอจะอยู่ ดูแลใจ
บางสิ่ง ในใจ ก็ไม่รู้
มันแอบหลบ ซ่อนอยู่ ในรูไหน
กว่าจะรู้ ว่ามีเธอ ว่าเจอใจ
ก็รักเธอ เข้าให้ เต็มใจเรา
ปากก็บอก ว่าลืม ลืมเธอหมด
ใครก็มอง ว่าเราอด ทนอยู่ได้
ที่ต้องกัด ฟันฝืน ยืนต่อไป
ก็เพราะรัก คำนี้ไง รักตัวเอง
วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
บทความดีๆ สำหรับคนมีทุกข์
คุณเคยรู้สึกไหม ว่าชีวิตช่างลำบาก
คุณไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่
คุณรู้สึกว่า ชีวิตนั้นเป็นทุกข์
อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไร ๆ ก็ผิดพลาดไปหมด?
เรื่องราวต่อไปนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลง ทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้
ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่า เขาจะทำงานสองอย่าง
รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้วยังเหลือแค่พันกว่า
แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว
ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้น
พราะเขามีรายได้น้อย
ต้องประหยัดมัธยัสถ์จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่สูงอายุ
พ่อตาแม่ยาย ภรรยาและลูกสาวอีกสองคน
ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
จุกจิกภายในครอบครัว
เขาอธิบายให้ฟังว่า
เป็นเพราะหลายปีก่อนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย
ขณะนั้นเขา ประสบปัญหาที่สาหัสมาก
สภาพจิตใจตกต่ำจึงไปเที่ยวอินเดียเพื่อให้สบายใจขึ้น
เขาได้เห็นกับตา ผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่ง
ถือมีดอีโต้ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง
สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น
และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ
จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม
คุณอาจจะถามว่า
ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ ?
เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า ?
หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ ? ไม่ใช่
ที่แท้ทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน
แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้
ลูกตัวเองพิการ เพื่อเขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้
เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช๊อก
ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื้น
ทันทีทันใดก็มีเด็กๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา
แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น
เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย
เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด
เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน
เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังทั้งหมดให้เขา
เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ
ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน
(ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซน)
แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวัน
และแล้ว เขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ
ขับไปบนถนน ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็ก ๆ
ซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น
พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ นั่นเอง
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดได้ว่า
ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่อชิ้นขนมปัง
ราคาไม่ถึง 25เซน
เขาเริ่มบอกตนเองว่าตนเองนั้นโชคดีแค่ไหน
เขามีร่างกายครบสามสิบสอง
มีอาชีพการงาน มีครอบครัว
มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย
มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า
มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี
ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า
ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ ?
บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้ คุณละ ?
บางทีเมื่อครั้งหน้าคุณรู้สึกว่า ชีวิตของตนกำลังย่ำแย่
ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็น ขอทานคนนั้นดูสิ !
“ความรู้สึกพอ”
ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ
แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมายและเพียงพอ
เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดออก
แต่บ่อยครั้งเรามัวแต่จ้องบานประตูที่ปิดลงเท่านั้น
ไม่ได้สังเกตเห็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดออกเพื่อเรา
จริงอยู่ พวกเรามักจะรู้ว่าตนเองมี
ก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมัน
แต่พวกเราก็ต้องคอยจนกว่าของสิ่งนั้นมาถึง
จึงจะรู้ตัวว่า เราไม่มีมัน
การมอบความรักทั้งหมดให้กับผู้อื่น
มิได้หมายความว่า เราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน
อย่าหวังว่า รักผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะรักตอบ
จงสนใจแค่ให้ความรักนั้น เติบโตขึ้นในใจพวกเขา
แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลยก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตขึ้นในใจของคุณเอง
หนึ่งนาทีจึงจะทำลายคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งชั่วโมงจึงจะชอบคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งวันจึงจะรักคนๆ หนึ่งได้
แต่ต้องใช้เวลาตลอดชั่วชีวิต
จึงจะลืมคน ๆ หนึ่งได้
จงอย่ามองเพียงรูปภายนอก เพราะสักวันมันจะหลอกคุณ
จงอย่ามองแค่ความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ เพราะสักวันมันจะซีดจางลง
หาใครสักคนที่ยิ้มให้คุณ เพราะเมื่อมีรอยยิ้ม
จะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น
หาใครสักคนที่ทำให้คุณอมยิ้มได้จากใจจริง
บางครั้งเมื่อคุณคิดถึงใครสักคน
ความคิดถึงนั้นอาจถึงขั้นให้คุณคว้าตัวเขาออกมาจากความฝัน
โอบกอดตัวเขาเอาไว้ ไล่ตามความฝันของคุณเอง
ไปยังที่ ๆ คุณอยากไป
เป็นอย่างคนที่คุณอยากเป็น
เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว
ซึ่งหมายถึง...มีเพียงโอกาสเดียวในการทำสิ่งที่คุณอยากทำ
คุณไม่อยากอยู่ในสภาพแวดล้อมอย่างที่เป็นอยู่
คุณรู้สึกว่า ชีวิตนั้นเป็นทุกข์
อาชีพการงานไม่ได้ดั่งใจ อะไร ๆ ก็ผิดพลาดไปหมด?
เรื่องราวต่อไปนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลง ทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิตคุณได้
ผมสนทนากับเพื่อนคนหนึ่ง ถึงแม้ว่า เขาจะทำงานสองอย่าง
รายได้แต่ละเดือนหักลบรายจ่ายแล้วยังเหลือแค่พันกว่า
แต่เขาก็มีความสุขมากแล้ว
ผมแปลกใจมากที่เขามีความสุขขนาดนั้น
พราะเขามีรายได้น้อย
ต้องประหยัดมัธยัสถ์จึงจะพอมีเหลือเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่สูงอายุ
พ่อตาแม่ยาย ภรรยาและลูกสาวอีกสองคน
ไหนจะค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
จุกจิกภายในครอบครัว
เขาอธิบายให้ฟังว่า
เป็นเพราะหลายปีก่อนเขาได้เห็นเหตุการณ์บางอย่างที่ประเทศอินเดีย
ขณะนั้นเขา ประสบปัญหาที่สาหัสมาก
สภาพจิตใจตกต่ำจึงไปเที่ยวอินเดียเพื่อให้สบายใจขึ้น
เขาได้เห็นกับตา ผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่ง
ถือมีดอีโต้ตัดแขนขวาของลูกตัวเอง
สายตาที่หมดหวังของผู้หญิงคนนั้น
และเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเด็กอายุสี่ขวบ
จนบัดนี้ยังวนเวียนอยู่ในใจเขามิรู้ลืม
คุณอาจจะถามว่า
ทำไมแม่คนนั้นจึงต้องทำเช่นนี้ ?
เป็นเพราะลูกของเธอซุกซนเกินไปหรือเปล่า ?
หรือเป็นเพราะแขนของเด็กติดเชื้อ ? ไม่ใช่
ที่แท้ทำไปเพื่อให้เด็กสามารถไปขอทานตามถนน
แม่ผู้สิ้นหวังคนนั้นจงใจทำให้
ลูกตัวเองพิการ เพื่อเขาสามารถออกขอทานตามท้องถนนได้
เพื่อนของผมคนนี้ตกใจแทบช๊อก
ขนมปังในมือของเขาที่เพิ่งกินได้ครึ่งก้อนตกหล่นลงพื้น
ทันทีทันใดก็มีเด็กๆ ห้าหกคนกรูกันเข้ามา
แย่งชิงขนมปังที่เลอะทรายบนพื้น
เหมือนกับปฏิกิริยาอัตโนมัติเวลาผจญกับความหิวโหย
เขาตกใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว
ไกด์ของเขาขับรถพาเขาไปยังร้านขนมปังที่ใกล้ที่สุด
เขาเข้าไปในสองร้านของละแวกนั้น ขอซื้อขนมปังทั้งหมดในร้าน
เจ้าของร้านขนมปังแปลกใจมาก แต่ก็ยินดีขายขนมปังทั้งหมดให้เขา
เขาใช้เงินทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งร้อยเหรียญ
ซื้อขนมปังมาประมาณสี่ร้อยกว่าก้อน
(ตกก้อนละไม่ถึง 25 เซน)
แล้วใช้อีกหนึ่งร้อยเหรียญซื้อของใช้ประจำวัน
และแล้ว เขาก็นั่งบนรถบรรทุกที่บรรทุกขนมปังไว้เต็มคันรถ
ขับไปบนถนน ขณะที่เขาแจกจ่ายขนมปังและของใช้ประจำวันให้กับเด็ก ๆ
ซึ่งพิการเป็นส่วนใหญ่นั้น
พวกเขาล้วนโค้งคำนับให้ด้วยความดีใจ นั่นเอง
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาคิดได้ว่า
ทำไมคนเราจึงสามารถละทิ้งศักดิ์ศรีของตนเองเพียงเพื่อชิ้นขนมปัง
ราคาไม่ถึง 25เซน
เขาเริ่มบอกตนเองว่าตนเองนั้นโชคดีแค่ไหน
เขามีร่างกายครบสามสิบสอง
มีอาชีพการงาน มีครอบครัว
มีโอกาสบ่นว่าอาหารชิ้นไหนดี อาหารชิ้นไหนไม่อร่อย
มีโอกาสสวมใส่เสื้อผ้า
มีโอกาสครอบครองสิ่งของมากมายที่คนเหล่านี้ไม่มี
ตอนนี้ ผมเริ่มคิดได้และตระหนักได้ว่า
ชีวิตของผมมันย่ำแย่จริงหรือ ?
บางทีมันอาจไม่ได้ย่ำแย่ขนาดนั้นก็ได้ คุณละ ?
บางทีเมื่อครั้งหน้าคุณรู้สึกว่า ชีวิตของตนกำลังย่ำแย่
ลองคิดถึงเด็กคนที่ต้องเสียแขนเพื่อเป็น ขอทานคนนั้นดูสิ !
“ความรู้สึกพอ”
ไม่ใช่มาจากการเติมเต็มสิ่งที่คุณต้องการ
แต่มาจากการตระหนักว่า คุณมีมากมายและเพียงพอ
เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูอีกบานหนึ่งก็จะเปิดออก
แต่บ่อยครั้งเรามัวแต่จ้องบานประตูที่ปิดลงเท่านั้น
ไม่ได้สังเกตเห็นประตูอีกบานหนึ่งที่เปิดออกเพื่อเรา
จริงอยู่ พวกเรามักจะรู้ว่าตนเองมี
ก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมัน
แต่พวกเราก็ต้องคอยจนกว่าของสิ่งนั้นมาถึง
จึงจะรู้ตัวว่า เราไม่มีมัน
การมอบความรักทั้งหมดให้กับผู้อื่น
มิได้หมายความว่า เราจะได้รับความรักตอบกลับมาอย่างเท่าเทียมกัน
อย่าหวังว่า รักผู้อื่นแล้วผู้อื่นจะรักตอบ
จงสนใจแค่ให้ความรักนั้น เติบโตขึ้นในใจพวกเขา
แต่ถ้าไม่เติบโตขึ้นเลยก็จงพอใจกับความรักที่เติบโตขึ้นในใจของคุณเอง
หนึ่งนาทีจึงจะทำลายคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งชั่วโมงจึงจะชอบคน ๆ หนึ่งได้
หนึ่งวันจึงจะรักคนๆ หนึ่งได้
แต่ต้องใช้เวลาตลอดชั่วชีวิต
จึงจะลืมคน ๆ หนึ่งได้
จงอย่ามองเพียงรูปภายนอก เพราะสักวันมันจะหลอกคุณ
จงอย่ามองแค่ความร่ำรวย ทรัพย์สมบัติ เพราะสักวันมันจะซีดจางลง
หาใครสักคนที่ยิ้มให้คุณ เพราะเมื่อมีรอยยิ้ม
จะทำให้อารมณ์ของคุณดีขึ้น
หาใครสักคนที่ทำให้คุณอมยิ้มได้จากใจจริง
บางครั้งเมื่อคุณคิดถึงใครสักคน
ความคิดถึงนั้นอาจถึงขั้นให้คุณคว้าตัวเขาออกมาจากความฝัน
โอบกอดตัวเขาเอาไว้ ไล่ตามความฝันของคุณเอง
ไปยังที่ ๆ คุณอยากไป
เป็นอย่างคนที่คุณอยากเป็น
เพราะคุณมีเพียงชีวิตเดียว
ซึ่งหมายถึง...มีเพียงโอกาสเดียวในการทำสิ่งที่คุณอยากทำ
บทสวดแก้โสด ลองทำดูกันนะ
ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญาเช่น เราจะรักกันทุกชาติไป โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้ ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ) สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดี ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาติมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมี ในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้อง จงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัย ใดๆ ขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลกทางธรรมเทอญ คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง
บทความดีๆ มีความหมาย
อย่าตัดสินหนังสือว่าดีแค่ปกสวยๆ...
อย่าบอกว่า...น่ารักเหลือเกินแค่คุยกันหนเดียว
คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ..ใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกที ่ชอบไม่ได้
คนที่บอกว่าจะไม่แต่งงาน...มักแซงหน้าแจกการ์ดก่อนคน อื่นเสมอ
การชอบหนังสือสักเล่มก็ไม่ได้หมายความว่าหนังสือเล่ม นั้นเนื้อหาดีทุกหน้า
การรู้สึกดีกับใครสักคน...ไม่จำเป็นว่าเขาต้องไม่มีข ้อเสียอะไรเลย
อย่าเสียดายเวลาถ้าอ่านหนังสือบางเล่มจบแล้วพบว่า... ไม่ใช่แบบที่ชอบ
จงรู้สึกดี..กับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็ม ที่
เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมา ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างแน่นอน แม้วันหนึ่งจะรู้ว่าเขาหรือเธอคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด
เพราะอย่างน้อยเราก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
และพร้อมที่จะตามหาคนของเราต่อไป
การอ่านหนังสือสักเล่มต้องใช้เวลาเช่นเดียวกับที่... ..
เราไม่สามารถรู้จักใครสักคนได้ดีตั้งแต่วันแรก
หนังสือมีสิ่งต่างๆหลากหลายให้ศึกษา ทดลองอ่านดูก่อนที่จะตัดสินใจว่าน่าเบื่อ
บางครั้งสิ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์และมองผ่านมันไป
วันหนึ่งมันอาจจะมีค่าสำหรับเรา
แล้วในตอนจบก็จะรู้ว่าหนังสือประเภทไหนเหมาะกับเราที ่สุด
เหมือนกับความรัก....
ทุกครั้งที่เรามีความรักกับใครสักคนนั้น
แม้ทุกอย่างจะเดินมาถึงจุดจบ แต่คนทั้งคู่ย่อมได้รับอะไรจากสิ่งต่างๆผ่านมาโดย
ไม่รู้ตัว อย่างน้อยที่สุดก็ได้บทเรียนที่มีค่าเพิ่มอีกบทหนึ่ง บทเรียนที่จะ
นำไปสร้างความรักครั้งใหม่ให้มีนรากฐานที่ดีกว่าที่ผ ่านมา
อย่าบอกว่า...น่ารักเหลือเกินแค่คุยกันหนเดียว
คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ..ใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกที ่ชอบไม่ได้
คนที่บอกว่าจะไม่แต่งงาน...มักแซงหน้าแจกการ์ดก่อนคน อื่นเสมอ
การชอบหนังสือสักเล่มก็ไม่ได้หมายความว่าหนังสือเล่ม นั้นเนื้อหาดีทุกหน้า
การรู้สึกดีกับใครสักคน...ไม่จำเป็นว่าเขาต้องไม่มีข ้อเสียอะไรเลย
อย่าเสียดายเวลาถ้าอ่านหนังสือบางเล่มจบแล้วพบว่า... ไม่ใช่แบบที่ชอบ
จงรู้สึกดี..กับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็ม ที่
เพราะอย่างน้อยที่ผ่านมา ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างแน่นอน แม้วันหนึ่งจะรู้ว่าเขาหรือเธอคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด
เพราะอย่างน้อยเราก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้น
และพร้อมที่จะตามหาคนของเราต่อไป
การอ่านหนังสือสักเล่มต้องใช้เวลาเช่นเดียวกับที่... ..
เราไม่สามารถรู้จักใครสักคนได้ดีตั้งแต่วันแรก
หนังสือมีสิ่งต่างๆหลากหลายให้ศึกษา ทดลองอ่านดูก่อนที่จะตัดสินใจว่าน่าเบื่อ
บางครั้งสิ่งที่เราไม่เห็นประโยชน์และมองผ่านมันไป
วันหนึ่งมันอาจจะมีค่าสำหรับเรา
แล้วในตอนจบก็จะรู้ว่าหนังสือประเภทไหนเหมาะกับเราที ่สุด
เหมือนกับความรัก....
ทุกครั้งที่เรามีความรักกับใครสักคนนั้น
แม้ทุกอย่างจะเดินมาถึงจุดจบ แต่คนทั้งคู่ย่อมได้รับอะไรจากสิ่งต่างๆผ่านมาโดย
ไม่รู้ตัว อย่างน้อยที่สุดก็ได้บทเรียนที่มีค่าเพิ่มอีกบทหนึ่ง บทเรียนที่จะ
นำไปสร้างความรักครั้งใหม่ให้มีนรากฐานที่ดีกว่าที่ผ ่านมา
วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
เรื่องเล่า ของ สามเหลี่ยม กับ วงกลม
................เคยมีวงกลมอยู่วงหนึ่งที่เศษเสียวของมันหายไป มันต้องอยู่ตัวคนเดียวไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ทำได้แค่กลิ่งไปคนเดียว วันหนึ่งมันคิดอยากจะมีใครมาเติมเต็มชีวิต มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย มันกลิ่งไป กลิ่งไป จนเจอกับสี่เหลี่ยมอยู่อันหนึ่ง มันคิดว่าจะมาเติมเต็มส่วนขาดหายได้ แต่มันก็มีปัญหาเข้ากันไม่ได้ แล้วมันก็ยังกลิ่งไป กลิ่งไป จนเจอเข้ากับวงกลมวงเล็กที่ดูเหมือนมันทำอะไรเหมือนกันแต่ก็เข้ากันไม่ได้ มันยังคงกลิ่งไปเพื่อตามหาเศษเสียวที่ขาดหายไปของมันจนวันหนึ่งมันเจอเข้ากับสามเหลี่ยมอยู่อันหนึ่ง แล้วส่วนที่ขาดหายไปของมันก็มีคนมาเติมเต็ม.............
.................ถ้าคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีแต่เรื่องดี-ดี และแฮปปี้เอ็นดิ้ง ล่ะก็ ลองมาฟังเรื่องของสามเหลี่ยมดูบ้าง..............
.................นานมาแล้วก็ยังมีสามเหลี่ยมอยู่อันหนึ่งเช่นกัน มันต้องอยู่ตัวคนเดียวไม่ว่าจะไปที่ไหนมันก็ไปคนเดียว แล้วมันก็คิดที่จะตามหาใครสักคนเข้ามาเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป วันหนึ่งมันเจอเข้ากับสี่เหลี่ยมอยู่อันหนึ่ง แต่มันก็ต้องพบเจอกับปัญหา จนเข้ากันไม่ได้ มันก็ยังคงกลิ่งไป กลิ่งไป จนเจอคนที่ดูเหมือนจะเข้ากันได้ และดูเหมือนจะมาเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายได้ แต่เขาก็มีคู่ของเขาอยู่แล้ว มันก็ยังคงกลิ่งไป กลิ่งไป จนส่วนที่เป็นเหลี่ยมของมันค่อย-ค่อยหายไป จนตัวของมันกลายเป็นวงกลม แล้วมันก็กลิ่งไปโดยไม่พยายามหาใครมาเติมเต็มชีวิตอีกเลย.................
.................ถ้าคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีแต่เรื่องดี-ดี และแฮปปี้เอ็นดิ้ง ล่ะก็ ลองมาฟังเรื่องของสามเหลี่ยมดูบ้าง..............
.................นานมาแล้วก็ยังมีสามเหลี่ยมอยู่อันหนึ่งเช่นกัน มันต้องอยู่ตัวคนเดียวไม่ว่าจะไปที่ไหนมันก็ไปคนเดียว แล้วมันก็คิดที่จะตามหาใครสักคนเข้ามาเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป วันหนึ่งมันเจอเข้ากับสี่เหลี่ยมอยู่อันหนึ่ง แต่มันก็ต้องพบเจอกับปัญหา จนเข้ากันไม่ได้ มันก็ยังคงกลิ่งไป กลิ่งไป จนเจอคนที่ดูเหมือนจะเข้ากันได้ และดูเหมือนจะมาเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายได้ แต่เขาก็มีคู่ของเขาอยู่แล้ว มันก็ยังคงกลิ่งไป กลิ่งไป จนส่วนที่เป็นเหลี่ยมของมันค่อย-ค่อยหายไป จนตัวของมันกลายเป็นวงกลม แล้วมันก็กลิ่งไปโดยไม่พยายามหาใครมาเติมเต็มชีวิตอีกเลย.................
วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
ความประทับใจที่เกิดขึ้นจากที่แห่งนี้ ม.บูรพา
ความประทับใจใช่การสร้างขึ้นมาเองไม่ แต่เป็นความรู้สึกที่ดีๆเกิดขึ้นในใจของเรา ในเรื่องต่างๆหรือสถานที่ต่างๆ
ม.บูรพาก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น การเดินทางมาครั้งแรกในหลายครั้งเคยผ่านมา แต่ไม่เคยได้เข้าไปในม.บูรพาเลยสักครั้ง
ม.บูรพาเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้ทะเล เพียงคุณมองจากบนตึกหรือห้องเรียนก็จะเห็นความสวยงามของทะเลที่รอคอยให้เราได้สัมผัส ถ้าได้เรียนตอนเย็นด้วยแล้ว ท้องฟ้าที่มีพระอาทิตย์กำลังตกดินเหนือผืนน้ำ เป็นสิ่งที่สวยงามยิ่งหาที่ไหนไม่ได้ แม้เรากำลังเรียนก็สามารถมองเห็นเหมือนกับเราได้ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่ทะเลเลยที่เดียว ม.บูรพาเป้นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนๆ มีสถานที่ต่างๆให้พักผ่อนหย่อนใจ ทั้งสวนนัน ที่เต้มไปด้วยผู้คน ในตอนเช้าและเย็นจะมีคนมาออกกำลังกายกันเป็นจำนวนมาก ทั้งวิ่ง เต้นแอรอบิก ไทเก๊ก เทนนิด ตะกร้อหรือการว่ายน้ำ ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมด้วยสุขภาพด้วยกันทั้งนั้น ตามที่ใจเราชอบกีฬาประเภทไหน สนามกีฬานั้นมีอยู่เพียงพอที่จะลองรับเหล่านักกีฬาทั้งหลายที่ชื่นชอบในเกมกีฬา อากาศของที่นี้ก็จะร้อนไปซักหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่เคยอยู่ใกล้ทะเล(โลชั่นเพียงอย่างเดียวคงไม่อยู่ ต้องเป็นครีมกันแดด FPF สูงๆหน่อย ถึงจะปลอดภัยจากแสงแดด) หลายต่อหลายคนอยากที่จะมาใช้ชีวิตที่นี้ รวมทั้งตัวเราด้วย การใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ สอนให้เราเรียนรู้ทั้งการใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ การรู้จักเลือกคบคน ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของเพื่อนใหม่ อาจมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีตามแต่นิสัยของแต่ละคน ที่จะแสดงออกมาให้เห็น ถึงแม้เขาจะพยายาม แค่ไหนในการแอบซ้อนนิสัยที่แท้จริงเอาไว้ ใช่ว่าเขาจะปิดบังไว้ได้ตอนเวลา ยิ่งอยุ่ด้วยกันด้วยแล้วจะทำให้เราได้รู้จักนิสัยที่แท้จริงของเขาเลยที่เดียว ชีวิตและความหวังทั้งหมดของฉันมอบให้แล้วที่ม.บูรพาแห่งนี้
ม.บูรพาก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทำให้เกิดความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น การเดินทางมาครั้งแรกในหลายครั้งเคยผ่านมา แต่ไม่เคยได้เข้าไปในม.บูรพาเลยสักครั้ง
ม.บูรพาเป็นมหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้ทะเล เพียงคุณมองจากบนตึกหรือห้องเรียนก็จะเห็นความสวยงามของทะเลที่รอคอยให้เราได้สัมผัส ถ้าได้เรียนตอนเย็นด้วยแล้ว ท้องฟ้าที่มีพระอาทิตย์กำลังตกดินเหนือผืนน้ำ เป็นสิ่งที่สวยงามยิ่งหาที่ไหนไม่ได้ แม้เรากำลังเรียนก็สามารถมองเห็นเหมือนกับเราได้ไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่ทะเลเลยที่เดียว ม.บูรพาเป้นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนๆ มีสถานที่ต่างๆให้พักผ่อนหย่อนใจ ทั้งสวนนัน ที่เต้มไปด้วยผู้คน ในตอนเช้าและเย็นจะมีคนมาออกกำลังกายกันเป็นจำนวนมาก ทั้งวิ่ง เต้นแอรอบิก ไทเก๊ก เทนนิด ตะกร้อหรือการว่ายน้ำ ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมด้วยสุขภาพด้วยกันทั้งนั้น ตามที่ใจเราชอบกีฬาประเภทไหน สนามกีฬานั้นมีอยู่เพียงพอที่จะลองรับเหล่านักกีฬาทั้งหลายที่ชื่นชอบในเกมกีฬา อากาศของที่นี้ก็จะร้อนไปซักหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่เคยอยู่ใกล้ทะเล(โลชั่นเพียงอย่างเดียวคงไม่อยู่ ต้องเป็นครีมกันแดด FPF สูงๆหน่อย ถึงจะปลอดภัยจากแสงแดด) หลายต่อหลายคนอยากที่จะมาใช้ชีวิตที่นี้ รวมทั้งตัวเราด้วย การใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ สอนให้เราเรียนรู้ทั้งการใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่อยู่ใกล้ๆ การรู้จักเลือกคบคน ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของเพื่อนใหม่ อาจมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีตามแต่นิสัยของแต่ละคน ที่จะแสดงออกมาให้เห็น ถึงแม้เขาจะพยายาม แค่ไหนในการแอบซ้อนนิสัยที่แท้จริงเอาไว้ ใช่ว่าเขาจะปิดบังไว้ได้ตอนเวลา ยิ่งอยุ่ด้วยกันด้วยแล้วจะทำให้เราได้รู้จักนิสัยที่แท้จริงของเขาเลยที่เดียว ชีวิตและความหวังทั้งหมดของฉันมอบให้แล้วที่ม.บูรพาแห่งนี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)